การบันทึกครั้งที่ 9
วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2559
ศึกษาดูงานที่โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์
โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ เป็นโรงเรียนระดับอนุบาล และประถมศึกษา เดิมนั้นมาจากอาคารสงเคราะห์พิบูลเวศม์ โดยใช้ศาลาฟังธรรม ในอาคารจัดสรร ตามดำริของ จอมปล ป. พิบูลสงคราม เปิดทำการสอนวันแรกในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 สังกัดแผนกการศึกษาอนุบาล กองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนางพิศวง หัสนันท์เป็นครูใหญ่คนแรก จนต่อมาได้ขยายการศึกษาถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ได้รับเลือกเป็นโรงเรียนที่จัดกิจกรรมสหกรณ์ดี เด่น ประจำปี พ.ศ. 2529 และในปี พ.ศ. 2531 โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่น, โรงเรียนที่ได้รับรางวัลพระราชทานระดับประถมศึกษา เป็นต้น
ปัจจุบัน (พ.ศ. 2551) โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์มีนักเรียนจำนวน 1,772 คน บุคลากร 102 คนจัดการเรียนการสอนในระดับอนุบาล, ช่วงชั้นที่ 1 - 2, โดยมีห้องเรียน 2 ภาษา และห้องปฏิบัติการทางภาษาและคณิตศาสตร์เต็มรูปแบบอีกด้วย
ประวัติ
ประวัติ
โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2498 เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งอยู่ที่ 259/444 ซอยปรีดีพนมยงค์ 13 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ ตั้งอยู่ในอาคารสงเคราะห์พิบูลเวศม์ในที่ดินของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ปัจจุบันโอนเป็นการเคหะแห่งชาติ) ซึ่งมีเนื้อที่จำนวน 1 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา พร้อมอาคารตึกชั้นเดียว จำนวน 2 หลัง หลังละ 2 ห้องเรียน (ได้รื้อก่อสร้างเป็นตึกอาคารเรียน 1 และอาคารเรียน 2 ในปัจจุบัน)และ อาคารศาลาทรงไทย 1 หลัง ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอนชั้นอนุบาล เมื่อ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 โดยตั้งชื่อว่า“โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์” สังกัดแผนการศึกษาอนุบาล กองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2523 โอนมาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษา แห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติการโอนโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ. 2523
วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 การเคหะแห่งชาติได้ยกกรรมสิทธิ์ การใช้ที่ดินเพิ่มให้อีก 1 แปลงมีเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 8 ตารางวา ซึ่งติดกับแปลง ที่ดินเดิม (เนื้อที่ 1 ไร่ 2 วา 88 ตารางวา) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ รวมเป็นเนื้อที่ฝืนเดียวกัน รวม 3 ไร่ 2 งาน 76 ตารางวา เพื่อใช้เป็นประโยชน์
สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน
- ดอกบัว เป็นเครื่องหมายประจำโรงเรียน เป็นดอกบัวสีชมพูกลางอักษร อ.
- หูกวาง คือต้นไม้ประจำโรงเรียน มีจำนวน 2 ต้น ปลูกที่หน้าอาคาร 1 และอาคาร 2 (ปัจจุบันโดนตัดไปแล้ว)
- พุทธมงคลสารประสิทธิ์ คือพระพุทธรูปประจำโรงเรียน ประดิษฐาน ณ ห้องจริยศึกษา ได้รับมอบจากพระมงคลราชมุนี (สุพจ โชติปาโล) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าคณะ 3 วัดสุทัศน์วราราม ซึ่งสร้างถวายในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 60 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2530
รายนามผู้บริหาร
รายนามผู้บริหาร | ตำแหน่ง | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
นางพิศวง หัสนันท์ | ครูใหญ่ | พ.ศ. 2498 - พ.ศ. 2510 |
นางไพลิน บูรณสัมฤทธิ์ | ผู้อำนวยการโรงเรียน | พ.ศ. 2510 - พ.ศ. 2533 |
นางฆรณี ธาระวานิช | ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ | พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2535 |
นายชัยยุทธ บุณย์สวัสดิ์ | ผู้อำนวยการโรงเรียน | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2545 - 30 กันยายน พ.ศ. 2548 |
นางอารี ชุ่มเมืองปัก | ผู้อำนวยการโรงเรียน | 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535 - 30 กันยายน พ.ศ. 2543 |
นายบัณฑิต พัดเย็น | ผู้อำนวยการโรงเรียน | 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 –10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 |
นายชิงชัย บุษยลาภ ไทยเดช | ผู้อำนวยการโรงเรียน | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 – 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 |
นายเพชรรัตน์ หิรัญชาติ | ผู้อำนวยการโรงเรียน | 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ถึง ปัจจุบัน |
อาคารและสถานที่
ปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ มีอาคารเรียน 3 หลัง
- อาคารเรียนแบบตึกพิเศษ 3 ชั้น (อาคาร1) จำนวนห้องเรียน 15 ห้องเรียน สร้างด้วยเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2513 จำนวน 1,500,000 บาท
- อาคารเรียนแบบตึกพิเศษ 3 ชั้น (อาคาร2) จำนวน 17 ห้องเรียน สร้างด้วยเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2518 จำนวน 3,000,000 บาท งบประมาณปี พ.ศ. 2519 จำนวน 450,000 บาท
- อาคารเรียนตึกพิเศษ 4 ชั้น (อาคาร3) มีชั้นดาดฟ้าสามารถใช้เป็นที่เรียนกิจกรรมได้ มีห้องเรียน 48 ห้อง สร้างด้วยเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2526-2528 จำนวนเงิน 16,332,000 บาท
ระดับปฐมวัย
- อนุบาล 3 ขวบมีห้องเรียน 3 ห้องเรียน
- อนุบาล 1 มีห้องเรียน 5 ห้องเรียน
- อนุบาล 2 มีห้องเรียน 5 ห้องเรียน
จำนวนบุคลากรทั้งสิ้น 125 คน แยกเป็นฝ่ายบริหาร 1 คน ครู 80 คน ครูชาวต่างชาติ 16 คน
เจ้าหน้าที่ธุรการ 4 คน ลูกจ้างประจำ 8 คนและลูกจ้างชั่วคราว 16 คน
มีนักเรียนทั้งสิ้น 1365 คน
จัดการศึกษา 2 หลักสูตร
1. โรงเรียนมาตรฐานสากล World class standard school
2. หลักสูตร Mini English program แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับปฐมวัย ชั้นอนุบาล 3 ขวบ อนุบาลปีที่ 1 และอนุบาลปีที่ 2 ระดับปฐมศึกษาปีที่ 1- 6
หลักการของหลักสูตรปฐมวัยหรืออนุบาล การจัดการศึกษาปฐมวัย ควรประกอบไปด้วย
1. เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลาง มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อเด็กเป็นรายบุคคล
2. มีการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน และปฏิบัติต่อเด็กให้สอดคล้องกัน
3. จัดและให้ประสบการณ์แก่เด็กในมุมกว้าง และเชื่อมโยงความรู้เข้าหากันและต่อเนื่องกัน
4. ให้ความสำคัญกับการเล่นและการเรียนรู้ ผ่านการสำรวจด้วยตนเองตามวิธีที่เขาถนัด ซึ่งผู้ที่อยู่ใกล้ชิด
เด็กจะบอกได้ว่าเด็กมีความถนัดในทางไหน และจะใช้กุศโลบายแบบไหนจึงจะเป็นวิธีที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กได้มากที่สุด
5. เน้นการพัฒนาด้านอารมณ์และสังคมของเด็ก เพื่อเขาจะได้อยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข
6. ให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างอิสระ เพื่อเขาจะได้เกิดความภาคภูมิใจ และมองเห็นว่าตัวเอง
มีค่าและมีความสำคัญเท่าๆ กับที่เห็นคุณค่าและความสำคัญของคนอื่น\
กิจกรรมที่จัดให้เด็กปฐมวัยในแต่ละวันมี ดังนี้
1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เป็น กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือ เสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก รำมะนา กลอง ฯลฯ
1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เป็น กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือ เสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก รำมะนา กลอง ฯลฯ
2.กิจกรรมสร้างสรรค์ เป็น กิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ การวาดภาพระบายสี การปั้น การพิมพ์ภาพ การพับ ตัด ฉีก ปะ และประดิษฐ์เศษวัสดุ ที่มุ่งพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ การรับรู้เกี่ยวกับความงามและส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กแต่ละคนได้แสดงออกตาม ความรู้สึกและความสามารถของตนเอง
3.กิจกรรมเสรีเป็น กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เล่นกับสื่อและเครื่องเล่นอย่างอิสระในมุมการเล่น กิจกรรมการเล่นแต่ละประเภทสนองตอบความต้องการตามธรรมชาติของเด็ก
4.กิจกรรมเสริมประสบการณ์ เป็น กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ฟัง พูด สังเกต คิด และปฏิบัติการทดลอง ให้เกิดความคิดรวบยอดและเพิ่มพูนทักษะต่างๆด้วยวิธีการหลากหลายเช่นการสนทนา ซักถามหรืออภิปราย สังเกต ทัศนศึกษา และปฏิบัติการทดลองตามกระบวนการเรียนรู้
5.กิจกรรมกลางแจ้ง เป็น กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ออกนอกห้องเรียนไปสู่สนามเด็กเล่นทั้งที่บริเวณกลาง แจ้งและในร่มเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างอิสระโดยยึดเอาความสนใจ และความสามารถของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก
6. กิจกรรมเกมการศึกษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่มีกระบวนการในการเล่นตามชนิดของเกมประเภท
ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน
6. กิจกรรมเกมการศึกษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่มีกระบวนการในการเล่นตามชนิดของเกมประเภท
ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน
สภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน
บริเวณภายในห้องควรจะเป็นกันเอง และสว่างไสวเพียงพอ ควร มีอ่างล้างมือขนาดใหญ่ที่อยู่ในระดับต่ำพอที่เด็กๆ จะเอื้อมมือถึงระดับน้ำได้ง่าย ลอยเรือลำเล็กๆ หรือ แช่กระดาษวาดเขียนได้ มีช่องเก็บของส่วนตัวของเด็กแต่ละคน มีตู้ขนาดใหญ่สำหรับเก็บวัสดุที่ครูต้องใช้ มีชั้นสำหรับวางอุปกรณ์และของเล่น อาจมีมุมตุ๊กตา มุมงานช่าง มีโต๊ะสำหรับทำกิจกรรมที่มีน้ำหนักเบาที่เคลื่อนย้ายได้ของเล่นที่จัดไว้ เป็นของเล่นที่มีความสมบูรณ์น้อยแต่ชี้ช่องทางในการเล่นได้มาก เช่น ตุ๊กตาที่ไม่ได้วาดหน้าไว้อย่างตายตัว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้สีน้ำ พู่กัน กระดาษ สีเทียน ขี้ผึ้ง ที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะอีกด้วย
บริเวณภายในห้องควรจะเป็นกันเอง และสว่างไสวเพียงพอ ควร มีอ่างล้างมือขนาดใหญ่ที่อยู่ในระดับต่ำพอที่เด็กๆ จะเอื้อมมือถึงระดับน้ำได้ง่าย ลอยเรือลำเล็กๆ หรือ แช่กระดาษวาดเขียนได้ มีช่องเก็บของส่วนตัวของเด็กแต่ละคน มีตู้ขนาดใหญ่สำหรับเก็บวัสดุที่ครูต้องใช้ มีชั้นสำหรับวางอุปกรณ์และของเล่น อาจมีมุมตุ๊กตา มุมงานช่าง มีโต๊ะสำหรับทำกิจกรรมที่มีน้ำหนักเบาที่เคลื่อนย้ายได้ของเล่นที่จัดไว้ เป็นของเล่นที่มีความสมบูรณ์น้อยแต่ชี้ช่องทางในการเล่นได้มาก เช่น ตุ๊กตาที่ไม่ได้วาดหน้าไว้อย่างตายตัว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้สีน้ำ พู่กัน กระดาษ สีเทียน ขี้ผึ้ง ที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะอีกด้วย
สภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียน
บริเวณกลางแจ้งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสนามเด็กเล่นอยู่ติดกับตัวอาคาร โดยจัดให้ใช้ได้ในสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย พื้นผิวควรแข็งเพื่อให้แห้งเร็วเมื่อฝนตก ควรตั้งอยู่ทางด้านที่แดดส่องถึง เพื่อให้เด็กๆ ได้รับแสงแดดยามเช้า บ่อทรายควรอยู่บริเวณนี้ ไม้เลื้อยบนกำแพง ต้นไม้ และแปลงดอกไม้ช่วยให้บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่น่าสบายสำหรับเด็กๆ ส่วนที่สองอยู่ห่างจากตัวอาคารใช้เป็นที่เล่นและออกกำลังกาย ควรจัดเป็นอาณาจักรสำหรับเด็ก ทำทางสำหรับรถเข็นและทางสำหรับเดิน โดยออกแบบทางเดินให้โค้งไปมาน่าเดินและผ่านจุดที่น่าสนใจ เนินเขาเป็นจุดเสริมที่มีคุณค่ามากในสนามเด็กจะได้วิ่งขึ้นและลงเป็นการใช้ กล้ามเนื้อหลายส่วนอย่างเป็นอิสระและเป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของพื้นที่เป็น ที่ตั้งของชิงช้า ไม้ลื่น ต้นไม้พุ่มเตี้ยๆ และปลูกไม้ดอกหรือพืชผักสวนครัว
สื่อ เป็นสื่อที่ทำจากไม้ สื่อวัสดุอุปกรณ์ที่ทำจากธรรมชาติ
บริเวณกลางแจ้งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสนามเด็กเล่นอยู่ติดกับตัวอาคาร โดยจัดให้ใช้ได้ในสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย พื้นผิวควรแข็งเพื่อให้แห้งเร็วเมื่อฝนตก ควรตั้งอยู่ทางด้านที่แดดส่องถึง เพื่อให้เด็กๆ ได้รับแสงแดดยามเช้า บ่อทรายควรอยู่บริเวณนี้ ไม้เลื้อยบนกำแพง ต้นไม้ และแปลงดอกไม้ช่วยให้บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่น่าสบายสำหรับเด็กๆ ส่วนที่สองอยู่ห่างจากตัวอาคารใช้เป็นที่เล่นและออกกำลังกาย ควรจัดเป็นอาณาจักรสำหรับเด็ก ทำทางสำหรับรถเข็นและทางสำหรับเดิน โดยออกแบบทางเดินให้โค้งไปมาน่าเดินและผ่านจุดที่น่าสนใจ เนินเขาเป็นจุดเสริมที่มีคุณค่ามากในสนามเด็กจะได้วิ่งขึ้นและลงเป็นการใช้ กล้ามเนื้อหลายส่วนอย่างเป็นอิสระและเป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของพื้นที่เป็น ที่ตั้งของชิงช้า ไม้ลื่น ต้นไม้พุ่มเตี้ยๆ และปลูกไม้ดอกหรือพืชผักสวนครัว
สื่อ เป็นสื่อที่ทำจากไม้ สื่อวัสดุอุปกรณ์ที่ทำจากธรรมชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น